วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ประวัติอาหารญี่ปุ่น


อาหารญี่ปุ่นอาหารญี่ปุ่น คำจำกัดความในปัจจุบัน หมายถึง อาหารพื้น
เมืองของประเทศญี่ปุ่น ก่อนการสิ้นสุดการปิดประเทศหรือซะ
โกกุ  เมื่อค.ศ. 1868 แต่ความหมายในที่กว้างขึ้นนั้นจะรวมถึง
อาหารที่ใช้ส่วนผสมและวิธีการทำอาหารซึ่งรับมาจากต่าง
ประเทศภายหลังการเปิดประเทศ แต่ชาวญี่ปุ่นก็ได้ประยุกต์ให้
เข้ากับตนเอง อาหารญี่ปุ่นนั้นมีชื่อเสียงด้านการเน้นอาหาร
ตามฤดูกาล คุณภาพของวัตถุดิบ และการจัดวางที่สวยงาม

อาหารญี่ปุ่นถูกพัฒนามานานหลายศตวรรษ อันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของสังคมและ
การเมืองในประเทศ อาหารญี่ปุ่นถูกเปลี่ยนแปลงอย่างมากเมื่อเข้าสู่สมัยกลางซึ่งเป็นสมัยที่
ญี่ปุ่นถูกปกครองด้วยระบอบศักดินาอันนำโดยโ
ชกุน ต่อมาในช่วงต้นยุคใหม่หลังการเปิดประเทศ ญี่ปุ่นรับวัฒนธรรมจากต่างชาติ โดยเฉพาะ
วัฒนธรรมตะวันตก ซึ่งมีอิทธิพลทำให้วัฒนธรรมการกินของชาวญี่ปุ่นเปลี่ยนแปลงอย่างมา

อาหารญี่ปุ่น

อาหารจานหลัก (主食 shushoku)

ข้าว (御飯 gohan)

ตั้งแต่ชาวญี่ปุ่นรู้จักการทำนาเมื่อ 2,000 พันปีที่แล้ว ข้าว ก็เป็นพืชเศรฐกิจที่สำคัญที่สุดของ
ญี่ปุ่น ความสำคัญของข้าวต่อวัฒนธรรมญี่ปุ่น สะท้อนได้จากในอดีต ข้าวถูกใช้เหมือนเงินตรา
ในการแลกเปลี่ยนสินค้าและเครื่องแสดงความมั่งคั่ง คำว่าข้าว ในภาษาญี่ปุ่น คือ โกะฮัง (御
飯 gohan) และ เมะชิ (飯 meshi) (นิยมใช้เฉพาะผู้ชาย) เมื่อจะบอกว่ารับประทานอาหาร ชาว
ญี่ปุ่นจะบอกว่ากินข้าว ซึ่งหมายถึงมื้ออาหารนั่นเอง เช่น 朝ご飯 (asagohan) แปลตามตัวได้ว่า ข้าวเช้า หรือหมายถึง อาหารเช้า
ข้าวญี่ปุ่นมีเมล็ดสั้น และเมื่อสุกแล้วจะเหนียวเล็กน้อย ชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทานข้าวขาว (白
米 hakumai) คือข้าวที่ถูกขัดสีจะไม่เหลือเยื่อหุ้มเมล็ดอยู่เลย ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่เชื่อว่าข้าว
กล้อง (玄米 genmai) หรือข้าวที่ยังมีเยื่อกหุ้มเมล็ดติดอยู่นั้นอร่อยน้อยกว่า แต่ข้าวกล้องก็ได้
รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะที่เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ
นอกจากนี้ข้าวธรรมดาแล้ว ชาวญี่ปุ่นยังนิยมรับประทานโมจิ (餅 mochi) ซึ่งทำจากข้าว
เหนียว นำไปทำให้สุกและทุบจนเหนียวเป็นก้อน นำไปปรุงได้ทั้งของคาว (ใส่ซุป) และของ
หวาน (ปิ้งรับประทานกับซอสหวาน หรือกับถั่วแดงกวน)
ข้าวยังสามารถนำประกอบอาหารต่างๆได้อีกหลายชนิด เช่น ซูชิ (寿司 sushi) ดงบุริ (丼 
donburi) โจ๊ก (お粥 okayu) เซ็มเบ (煎餅 senbei) วะงะชิ (和菓子 wagashi) และสาเก (酒 
sake) เป็นต้น

อาหารเส้น (麺類 men-rui)

อาหารเส้นอาจ รับประทานเป็นอาหารจานเดียว จัดสำรับแทนข้าว หรือจัดคู่กับข้าวเลยก็ได้
อาหารเส้นที่เป็นที่รู้จักกันดี สามารถรับประทานแบบร้อนในน้ำซุป หรือแบบเย็นจุ่มซอสก็ได้

ขนมปัง (パン pan)

ญี่ปุ่นรับวัฒนธรรมการรับประทานขนมปังมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 19 จนถึงปัจจุบัน ชาวญี่ปุ่น
พัฒนาขนมปังจนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และนิยมรับประทานกันโดยทั่วไป คำว่าขนมปังใน
ภาษาญี่ปุ่นคือ พัง (ญี่ปุ่น: パン pan) ซึ่งมาจากภาษาโปรตุเกส

กับข้าว (おかず okazu)

กับข้าว (おかず okazu) ที่ชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทานกันทั่วไป มีหลายชนิด ตัวอย่างเช่น
• อาหารต้มหรือตุ๋น (煮物 nimono)
• อาหารผัด (炒め物 itamemono)
• อาหารทอด (揚げ物 agemono)
• อาหารย่าง หรือทอดบนกระทะแบน (焼き物 yakimono)
• อาหารนึ่ง (蒸し物 mushimono)
• ซะชิมิ (刺身 sashimi)
• ซุป (吸い物 หรือ 汁物 suimono หรือ shirumono)
• อาหารหมักดอง หรือยำ (漬け物 หรือ 和え物 หรือ 酢の物 tsukemono หรือ aemono 
หรือ sunomono)

ขนมหวาน (お菓子 okashi) และของทานเล่น (お八つ oyatsu)

• วะงะชิ (和菓子 wagashi) : ขนมหวานแบบญี่ปุ่น
• ดะงะชิ (駄菓子 dagashi) : ขนมหวานแบบญี่ปุ่นโบราณ
• โยงะชิ (洋菓子 yōgashi) : ขนมหวานแบบตะวันตก
• คะชิปัง (菓子パン kashi pan) : ขนมปังแบบหวาน

วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

อาหารญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารการกินเป็นอย่างมาก อาหารจะได้รับการตกแต่งอย่างปราณีต เน้นความสดและความสวยงาม ทำให้ผู้ที่ได้ชิมก็ได้รู้สึกว่าได้บริโภคความงามลงไปด้วย อิ่มตาและอิ่มท้องเลยละค่ะ ร้านอาหารในญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะแขวนโคมแดงอยู่หน้าร้าน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์การกินดื่มของญี่ปุ่น อาหารที่นิยมทานกันในหมู่คนญี่ปุ่น ก็จะเป็นจำพวกปลา เช่น ปลาทอดตามแบบฉบับของญี่ปุ่น อาหารทะเล อาหารประเภทปิ้งหรือย่าง เช่น ยากิโตริ (yakitori-ไก่เสียบไม้ปิ้ง) ข้าวปั้นทอด ซาซิมิ (sashimi) และโซบะ ราเม็ง

บะหมี่ : คนญี่ปุ่นนิยมกินบะหมี่กันตลอดทั้งปี บะหมี่มี 3 ชนิดหลักๆด้วยกัน คือ โซบะ, อุด้ง และ โซเม็ง

โซบะ : ทำจากบักวีต เส้นจะมีสีน้ำตาลบาง ผู้คนนิยมทานโซบะกันมากที่สุด เพราะติดใจในแป้งบักวีต โดยเฉพาะรสชาติที่อร่อยของเส้นที่ไม่ผสมแป้งชนิดอื่นลงไปมากนัก โดยทั่วไปโซบะจะเสิร์ฟพร้อมวาซาบิ (wasabi) หอมหัวใหญ่ฝาน น้ำจิ้มทำจากมิริน (mirin-สาเกหวาน) และคัตสึโอะบูชิ (เกล็ดปลาแห้ง) โซบะแบบนี้หากเสิร์ฟแบบเย็นบนซารุหรือถาดไม้ไผ่ จะเรียกว่า ซารุโซบะ (zarusoba) ซึ่งเป็นอาหารยอดนิยมในหน้าร้อน
โซเม็ง : เป็นบะหมี่นิยมทานในหน้าร้อนเช่นกัน เส้นของโซเม็งทำจากข้าวสาลี (sobako-ข้าวสาลี) ดังนั้นเส้นจึงมีสีขาวนวลและเส้นจะบางกว่าโซบะ เส้นโซเม็งจะนุ่มสามารถดัดแปลงทำอาหารได้หลายอย่าง โซเม็งสามารถเสิร์ฟแบบโงะโมะคุ (gomoku-ห้ารส) โดยโรยไข่เจียวซอยเส้น ไก่ และผักต่างๆ หรือเสิร์ฟแบบโงะมะดาเระ (gomadare) ที่มีมะเขือยาว ปลา และชิโสะ (shiso) เป็นเครื่องเคียง เสิร์ฟแบบเย็นก็มี เรียกว่า ฮิยะชิ-hiyashi ที่ใส่แต่ซอสถั่วเหลืองผสมน้ำมันงา โซเม็งเป็นอาหารเบาๆที่ช่วยทำให้สดชื่นในหน้าร้อน
อุด้ง : เป็นอาหารยอดนิยมในหน้าหนาว อุด้งทำจากข้าวสาลี และมีเส้นหนาถึงหนามาก โดยจะเสิร์ฟพร้อมน้ำซุปซอสถั่วเหลืองร้อนๆ หอมหัวใหญ่ฝาน ผักชนิดต่างๆและไข่ อุด้งจะต่างจากโซบะและราเม็งเวลารับประทานตรงที่ ไม่ต้องจุ่มเส้นในน้ำซุปก่อนรับประทาน เส้นอุด้งจะมีขนาดเส้นที่ใหญ่และเหนียวนุ่ม จึงให้ความอบอุ่นเป็นอย่างดีในหน้าหนาว
วิธีการกินบะหมี่ญี่ปุ่นให้อร่อย จะใช้ตะเกียบคีบและกลืนลงคอด้วยเสียงอันดังตามแบบญี่ปุ่น บางคนอาจจะเขินที่กินเสียงดัง ซู้ดซาด แต่ที่นี่ถือเป็นมารยาทที่ยอมรับกันทั่วไป ให้เกียรติแก่คนทำที่ทำบะหมี่อร่อยๆให้ทาน ผู้เชี่ยวชาญ(การกิน) กล่าวว่าเสียงยิ่งดัง ยิ่งอร่อย นะจะบอกให้...

ซูชิและซาซิมิ
 : เป็นการผสมผสานของรสชาติและหน้าตาอาหาร อาหารทั้งสองชนิดเป็นอาหารทะเลดิบที่คนญี่ปุ่นโปรดปราน และตอนนี้ก็น่าจะเป็นอาหารยอดฮิตในเมืองไทยด้วย ซูชิที่ทีต้องใช้ส่วนผสมคุณภาพดี ข้าวก็ต้องผ่านการอบและออกรสเปรี้ยวพอดี ส่วนเครื่องโรยหน้าก็ต้องสด คนที่ชอบปลาดิบและอาหารทะเลสดๆ ทานคู่กับวาซาบิ อื้อฮือ..ขึ้นจมูกน้ำหูน้ำตาไหล แต่อาย่อย ถ้าไปที่ญี่ปุ่นแล้วยังไม่คุ้นกับเมนูไม่รู้จะทานอะไรดี ลองไปนั่งที่ไคเต็นซูชิยะ (kaitensushi-ya) ซึ่งเป็นร้านที่เป็นเคาน์เตอร์ มีจานซูชิหน้าต่างๆไหลไปตามสายพาน ชอบใจอันไหนก็หยิบมาได้เลย แถมราคาไม่แพงอีกด้วย

นาเบโมโนะ : เป็นอาหารประเภทหม้ออุ่นร้อนๆ ญี่ปุ่นมีอาหารจานร้อน (นาเบะเรียวริ-nabe-ryori) ให้ลิ้มลองทุกพื้นที่ นาเบะโมโนะเป็นอาหารของฤดูหนาวที่ขึ้นชื่อ นอกจากนี้ยังมี อิชิคารินาเบะ ที่ใส่ปลาแซลมอน หัวหอม ผักกาดขาว เต้าหู้ คอนยะกุ(หัวบุก) และชุงงิกุ(ใบตั้งโอ๋), โฮโต (hoto) ที่ใส่อุด้ง ไดกง(หัวไชเท้า) นินจิน(แครอท) โกะโบ หัวหอม ผักกาดขาว และไก่ และชิรินาเบะ ที่ใส่เนื้อปลาปักเป้าขาว ผักกาดขาว เห็ด เต้าหู้และเส้นหมี่ขาว
ส่วนอาหารจานด่วนแบบโตเกียว คือ โอเด็งนาเบะ ซึ่งใส่มันฝรั่ง เต้าหู้ บุก ไข่ต้ม ปลาหมึก แครอท หัวไชเท้า สาหร่ายทะเล และอื่นๆตามสูตร โอเด็งเป็นอาหารที่หาซื้อได้ง่าย มีขายตามร้านสะดวกซื้อ และให้ความอบอุ่นเป็นอย่างดีในหน้าหนาว

สึเกโมโนะ : ก็คือผักดองแบบญี่ปุ่น(tsukemono) อาหารญี่ปุ่นทุกมื้อจะเสิร์ฟพร้อมสึเกโมโนะ ซึ่งเป็นเครื่องเคียงเสริมหน้าตาและรสชาติให้อาหารน่ารับประทานมากขึ้น นอกจากนี้ผักดองยังช่วยล้างปาก ล้างคาวเพื่อลิ้มลองอาหารชนิดใหม่ เช่น ถ้าทานปลาดิบ แล้วตามด้วยผักดอง จะช่วยล้างความคาวออกจากปาก เพื่อหันไปลองเทมปุระกุ้ง ที่ชิมความหวานของกุ้งได้เต็มปากเต็มคำ ส่วนผสมของผักดองจะต่างไปตามฤดูกาลและมีความหลากหลาย ที่นิยมทานกันทั่วไป คือ ผักกาดขาว ไผ่ หัวผักกาด คิวริ(แตงกวาญี่ปุ่น) แฮกเบอร์รี่ หัวไชเท้า ขิง นะสุ(มะเขือยาวญี่ปุ่น) อูโดะ(หน่อไม้ฝรั่ง) และอื่นๆ



เบ็นโต : เนื่องจากความรีบเร่ง จึงเกิดอาหารจานด่วนที่จัดลงในกล่องสวยงาม อาหารกล่องอย่างเบ็นโตราคาไม่แพง ซื้อหาสะดวกได้ตามร้านสะดวกซื้อ เบ็นโตถึงแม้จะเป็นอาหารราคาประหยัดแต่ก็จัดเรียงอย่างสวยงาม ในกล่องที่มีช่องเล็กช่องน้อยเพื่อวางอาหารและเครื่องเคียง สังเกตว่าร้านอาหารญี่ปุ่นในเมืองไทย เบ็นโตก็เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมจากผู้ที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่น เพราะมีอาหารหลายอย่างบรรจุลงในกล่อง เรียกได้ว่าชิมอย่างละนิดละหน่อยแต่หลากหลาย


วิธีการทำอาหารญี่ปุ่น

ปลาดิบ (sashimi) 

เป็นเมนูง่ายๆของผู้ที่รักอาหารญี่ปุ่นจริงๆ อาหารจะเน้นความสดของปลาทะเล ความหวานกรอบของผักเคียง และที่ขาดไม่ได้คือน้ำจิ้มรสเด็ด มาดูวิธีทำกันดีกว่านะคะ
เครื่องปรุง
เนื้อปลาตามชอบหั่นชิ้นพองาม
10
ชิ้น
ปลาหมึกกระดองหั่นชิ้น
5
ชิ้น
แครอท
1/2
ลูก
หัวไชเท้า
1/2
ลูก
แตงร้าน
1/2
ลูก
วาซาบิ
2
ช้อนชา
วิธีทำ
1. ล้างหัวไชเท้า แครอท และแตงร้านให้สะอาด ปลอกเปลือกออกเหลือแต่เนื้อ แล้วขูดเป็นเส้นๆ
2. นำหัวไชเท้า แครอท และแตงร้านที่ขูดแล้วนำมาคลุกเคล้ากัน แล้วแช่เย็นไว้
3. นำเนื้อปลาและปลาหมึกมาหั่นเป็นชิ้นพอคำ แล้วแช่เย็นไว้เพื่อรักษาความสดและไม่ให้มีกลิ่นคาว
4. เมื่อจะรับประทาน นำผักที่แช่เย็นไว้มาจัดลงจาน จัดเรียงเนื้อปลา และปลาหมึกสดใส่จาน ตกแต่งให้สวยงาม รับประทานคู่กับน้ำจิ้มปลาดิบและวาซาบิ
วิธีทำน้ำจิ้มปลาดิบ
ซีอิ๊วญี่ปุ่น
1
ถ้วย
ฮอนตาชิ
1/2
ช้อนชา
น้ำตาลทราย
1
ช้อนชา
ผสมซีอิ๊วญี่ปุ่น น้ำตาลทรายและฮอนตาชิเข้าด้วยกัน ตั้งไฟพอเดือด ถ้าต้องการข้นก็เคี่ยวสักพักนึงแล้วยกลง สามารถเก็บใส่ขวดแช่เย็น จะทานได้นาน


บะหมี่เทมปุระ (Tempura Soba)

หลายคนที่ชอบเทมปุระเป็นชีวิตจิตใจ เห็นเมนูนี้ก็คงไม่พลาดนะคะ เทมปุระสามารถนำมาประยุกต์ทำอาหารอื่นๆได้อีกหลายอย่าง ลองมาทำดูเลยนะคะ

เครื่องปรุง
กุ้งเทมปุระ
3
ชิ้น
เส้นโซบะ
1
ถ้วย
ข้าวโพดอ่อนเทมปุระ
2
ชิ้น
ต้นหอมซอย
1
ต้น
น้ำซุปอุด้ง
1 1/2
ถ้วย
แป้งเทมปุระทอดแล้ว
1/2
ถ้วย
ซีอิ้วญี่ปุ่น
1/4
ช้อนชา
พริกป่นญี่ปุ่น
1/4
ช้อนชา

วิธีทำ

1. ลวกเส้นโซบะในน้ำเดือด ใช้ไฟแรง พอเดือดจนสุกนุ่มก็ตักขึ้นมา พักให้สะเด็ดน้ำ เคล้าน้ำมันพืชเล็กน้อยเพื่อไม่ให้เส้นติดกัน
2. ใส่น้ำซุปลงในหม้อ ตั้งไฟจนเดือดแล้วใส่เส้นโซบะลงไป พอเดือดก็ตักใส่ชาม
3. เรียงกุ้งเทมปุระ ข้าวโพดอ่อนเทมปุระ และแป้งเทมปุระที่ทอดแล้วลงในชาม
4.โรยต้นหอม ก่อนรับประทานปรุงรสด้วย ซีอิ้วญี่ปุ่นและพริกป่นตามต้องการ

วิธีทำน้ำซุปบะหมี่

น้ำซุปปลาแห้ง
4
ถ้วย
ซีอิ้วญี่ปุ่น
2
ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย
1
ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น
1
ช้อนโต๊ะ
กระดูกไก่
1
โครง
ฮอนตาชิ
1
ช้อนชา
ใส่น้ำซุปปลาแห้งลงในหม้อ ตั้งไฟกลางพอเดือด ใส่กระดูกไก่ที่ล้างสะอาดแล้วต้มเคี่ยวด้วยไฟอ่อนอีกประมาณ 15 นาที ปรุงรสด้วย ซีอิ้วญี่ปุ่น เกลือ น้ำตาล ฮอนตาชิ พอเดือดอีกครั้งปิดไฟ กรองเอาเฉพาะน้ำซุปใสๆ



ราเมง (Ramen)
วันนี้ขอแนะนำอาหารญี่ปุ่นแท้ๆ ที่เราๆคุ้นเคยกันดีนะคะ...แต่น แตน แต้น..ราเมง ค่ะ วิธีทำก็ไม่ยากอย่างที่คิด ถ้าเป็นที่ญี่ปุ่นชามนึงก้อตั้ง 1,000 เยนแนะค่ะ ลองมาทำทานกันดูนะคะ


วิธีทำ


1
ต้มน้ำซุปในหม้อ โดยเติมกระดูกไก่, หัวห้อม, กระเทียม, แครอท และต้นหอม เคี่ยวจนความหวานของผักและกระดูกไก่ออกมา ประมาณ 4 ชั่วโมง (เคี่ยวไฟอ่อนๆ)
2
ตักน้ำซอสญี่ปุ่นที่เคี่ยวเอาไว้แล้วใส่ชาม
3
น้ำซุปที่เคี่ยวเอาไว้แล้วในข้อ 1 ตอนนี้ก้อได้ที่แล้ว
4
ตักน้ำซุปราดลงในชามที่มีน้ำซอสเข้มข้นอยู่ โรยด้วยต้นหอม
5
น้ำเส้นบะหมี่ไปลวกในน้ำเดือด จนได้เส้นเหนียวนุ่ม
6
น้ำเส้นบะหมี่ที่ลวกไว้แล้ว เทลงในชามที่มีน้ำซุปอยู่ เติมเนื้อหมู และผักตามชอบ




ปลาซาบะย่างซีอิ๊ว (Saba Teriyaki) 


อันนี้เป็นเมนูเด็ดที่ผู้เขียน(อิชั้นเองค่า) ชอบม๊ากๆ เวลาไปทานอาหารญี่ปุ่นทีไรก็อดสั่งไม่ได้ ทานคู่กับข้าวญี่ปุ่นนุ่มๆ ตามด้วยซุปเต้าเจี้ยว อู๊ย..อาย่อย เสียตังค์มาก็เยอะมาลองหัดทำเองดีก่า...
เครื่องปรุง
เนื้อปลาซาบะ
200
กรัม
มะนาวหั่นเสี้ยว
2
ชิ้น
วาซาบิ
1
ช้อนชา
น้ำจิ้มปลาย่าง
1
ถ้วย
ขิงดอง
1
ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ
1. ล้างปลาซาบะ แล่เนื้อให้เป็นชิ้นใหญ่ บั้งหนังปลาพอสวยงามให้น้ำซอสหมักเข้าเนื้อปลา เคล้าเนื้อปลากับน้ำจิ้มปลาย่าง หมักทิ้งไว้ 15 นาที
2. ย่างปลาที่หมักไว้ให้สุกเหลือง
3. จัดปลาซาบะที่ย่างเสร็จแล้วลงจาน ก่อนทานบีบมะนาวลงบนเนื้อปลา รับประทานคู่กับน้ำจิ้มปลาย่าง ขิงดอง และวาซาบิ


น้ำจิ้มปลาย่าง
ขิงแก่ทั้งเปลือกย่างหั่นบางๆ
200
กรัม
แครอททั้งเปลือกย่างหั่นบางๆ
200
กรัม
หอมใหญ่หั่นแว่น
400
กรัม
กระดูกปลาย่างสุก
200
กรัม
ปลาแห้ง
20
กรัม
น้ำตาลทราย
3
ถ้วย
เหล้าสาเก
1
ถ้วย
ซีอิ๊วญี่ปุ่น
1
ถ้วย
1. ใส่เหล้าสาเกลงในหม้ ตั้งไฟจนหมดกลิ่นแอลกอฮอล์
2. ผสมเครื่องปรุงทุกอย่างลงไปในหม้อ ตั้งไฟกลาง พอเริ่มเดือดใส่กระดูกปลาเคี่ยวไฟอ่อนจนข้นจึงใส่ปลาแห้ง เคี่ยวต่ออีก 5 นาทีให้มีกลิ่นหอม ยกลงกรองเอาแต่น้ำ สามารถเก็บใส่ขวดไว้ใช้ได้นาน



ข้าวห่อสาหร่ายไส้รวม
 (Maki Sushi) 

I love sushi...หลายคนที่ชอบกินซูชิเป็นชีวิตจิตใจ ลองมาดูเมนูข้าวห่อสาหร่ายที่ทำง๊ายง่ายอีกเช่นกัน ด้วยรสชาติที่กลมกล่อมของข้าวซูชิผสมกับกลิ่มหอมของสาหร่ายและใส้ที่สอดอยู่ด้านใน รับประทานพร้อมน้ำจิ้มและวาซาบิ อื้อฮือ..อย่าบอกใครเลย ลองทำให้คนที่คุณรักทานดูสิคะ
เครื่องปรุง
ข้าวญี่ปุ่น
2
ถ้วย
น้ำซูชิ
1/2
ถ้วย
น้ำเปล่า
1 1/2
ถ้วย
ปูอัด
4
ชิ้น
ไข่ม้วน หั่นเป็นแท่ง
4
แท่ง
สาหร่ายทะเลชนิดแผ่น
2
แผ่น
ขิงดอง
2
ช้อนโต๊ะ
หัวไชเท้าดองหั่นเป็นแท่ง
4
แท่ง
เนื้อแตงร้านหั่นเป็นแท่ง
4
แท่ง
มู่ลี่สำหรับม้วนข้าวห่อ
1
แผ่น
วาซาบิ
2
ช้อนชา


วิธีทำ
1. นำข้าวญี่ปุ่นใส่หม้อ ซาวน้ำทิ้ง แล้วใส่น้ำซูชิผสมกับน้ำเปล่าตามส่วน หุงประมาณ 20 นาทีจนข้าวสุกนุ่ม
2. วางสาหร่ายทะเลลงบนมู่ลี่ ใส่ข้าวซูชิ เกลี่ยให้ทั่วแผ่นเหลือขอบสาหร่ายไว้ 1 นิ้ว วางปูอัด หัวไชเท้าดอง แตงร้าน ไข่ม้วนไว้ตรงกลาง ม้วนให้เป็นสามเหลี่ยม
3. หั่นสาหร่ายตามขวางหนา 1 นิ้ว จัดใส่จาน ตกแต่งให้สวยงาม รับประทานคู่กับน้ำจิ้ม วาซาบิ และขิงดอง


วิธีทำน้ำจิ้ม 


ซีอิ๊วญี่ปุ่น
1
ถ้วย
ฮอนตาชิ
1/2
ช้อนชา
น้ำตาลทราย
1
ช้อนชา
ผสมซีอิ๊วญี่ปุ่น น้ำตาลทรายและฮอนตาชิเข้าด้วยกัน ตั้งไฟพอเดือด ถ้าต้องการข้นก็เคี่ยวสักพักนึงแล้วยกลง สามารถเก็บใส่ขวดแช่เย็น จะทานได้นาน




ข้าวห่อไข่ (Omuraisu)

Omuraisu (ข้าวห่อไข่)
เป็นเมนูที่ค่อนข้างนิยมของชาวญี่ปุ่น ด้วยส่วนประกอบที่หาไม่ยาก ทำง่าย รับประทานได้ทุกเพศทุกวัย ทำเสร็จใหม่ๆไข่เจียวหอมกรุ่น พอเอาช้อนตักลงไปก็จะพบไส้หอมๆ พอรับประทานคู่กับไข่และซอสมะเขือเทศ...เข้ากั้นเข้ากันค่ะ

วิธีทำ

1
เครื่องปรุงประกอบด้วย หอมซอย 30 กรัม, เห็ดหอมสดสไลด์บางๆ 1 หัว, เนื้อไก่หั่นเต๋าประมาณ 1 เซ็น 30 กรัม ทีนี้ก็มาเริ่มลงมือกันเลยนำเนย 10 กรัมลงผัดในกระทะตั้งไฟร้อน พอเนยละลายตามด้วยหอมซอย ตามด้วยเนื้อไก่และเห็ดหอมสด
2
ผัดเครื่องให้เข้ากันจนหอมซอยเริ่มสุกนิ๊ดๆ ก็ใส่ซอสมะเขือเทศประมาณ 2 1/2ช้อนโต๊ะ และตามด้วยข้าวสวย 60 กรัม และไวน์ขาว 2/3 ช้อนโต๊ะ เหยาะเกลือและพริกไทยเล็กน้อย คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วปิดไฟพักไว้
3
ตอกไข่ 3 ฟองลงในชาม ตีให้เข้ากัน เหยาะเกลือและพริกไทย นำกระทะเปล่าตั้งไฟพอร้อนใส่น้ำมันและเนย 10 กรัม จนน้ำมันร้อนใช้ไฟพอปานกลาง เทไข่ที่ตีไว้แล้วลงในกระทะ กลิ้งกระทะให้ไข่กระจายเป็นแผ่น ใช้ตะเกียบหรือตะหลิวเกลี่ยให้ไข่หนาเท่าๆกัน
4
เมื่อไข่เริ่มสุกปานกลาง นำข้าวที่ผัดไว้แล้วมาเทใส่ลงในไข่ให้อยู่ขอบด้านใดด้านหนึ่ง แล้วผลิกขอบไข่อีกด้านมาปิด
5
หลังจากนั้นก็เริ่มม้วนไข่เพื่อห่อเครื่องให้อยู่ด้านใน โดยกระดกกระทะช่วยจะทำให้ห่อได้สวยงาม
6
ห่อได้เรียบร้อยเป็นอันเสร็จพิธี นำเทใส่จานโดยให้ด้านหลังแผ่นไข่ขึ้นโชว์ด้านบน จัดให้สวยงามน่ารับประทาน ราดซอสมะเขือเทศลงไปสัก 1 ช้อนโต๊ะเท่านี้ก็น้ำลายสอแล้วค่ะ






ข้าวหน้าเนื้อญี่ปุ่น (Yakiniku Don)


ขอแนะนำเมนูอาหารญี่ปุ่นทำง่ายๆ สำหรับคนรักเนื้อนะคะ เป็นข้าวหน้าเนื้อญี่ปุ่น เริ่มหิวแล้วล่ะคะ มาลงมือทำกันเลย...
เครื่องปรุง
ข้าวสวยญี่ปุ่น
1
ถ้วย
เนื้อสันใน
200
กรัม
ต้นหอมซอย
2
ต้น
หอมใหญ่หั่นเสี้ยว
1/2
หัว
น้ำตาลทราย
1/2
ช้อนชา
ซีอิ้วญี่ปุ่น
1
ช้อนโต๊ะ
ฮอนตาชิ
1/4
ช้อนชา
น้ำขิงสด
1/2
ช้อนชา
เหล้าสาเก
1
ช้อนโต๊ะ
น้ำซุปปลาแห้ง
1/4
ถ้วย
วิธีทำ
1. ล้างเนื้อสันใน หั่นชิ้นบาง พักไว้
2. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ตั้งไฟกลางพอร้อน ใส่เนื้อลงผัดพอสุก ใส่เหล้าสาเก หอมใหญ่ ผัดให้เข้ากันี
3. ปรุงรสด้วยซีอิ๊วญี่ปุ่น น้ำตาล ฮอนตาชิ น้ำขิง ผัดพอทั่ว เคี่ยวจนน้ำขลุกขลิก ใส่ต้นหอม ผัดเข้าด้วยกัน
4. วิธีจัดเสิร์ฟ จัดข้าวสวยใส่จาน ตักหน้าเนื้อในข้อ 3 ราดข้างๆ




ข้าวแกงกะหรี่ไก่ญี่ปุ่น (Chikkin Kare Raisu) 


ซู้ด..ซู้ด..น้ำลายไหล นึกถึงแกงกะหรี่บ้านเราที่ทั้งหอมและสีชวนกินก็ต้องไม่พลาดเมนูนี้ ที่ญี่ปุ่นค่อนข้างเป็นที่นิยมเลยนะ แต่ความเผ็ดร้อนคงสู้ของพี่ไทยไม่ได้แน่ มาลองทำดูกันเลยดีมั้ยคะ???


เครื่องปรุง
ข้าวสวยญี่ปุ่น
3
ถ้วย
สะโพกไก่
2
ชิ้น
แครอท, มันฝรั่ง
1/2
หัว
หอมใหญ่
2
หัว
มันฝรั่งต้มสุกบดละเอียด
1/2
หัว
กระเทียมสับหยาบ
1
ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น พริมไทยป่น
1/2
ช้อนชา
ซีอิ้วญี่ปุ่น
1/4
ถ้วย
ผงกะหรี่
1
ช้อนชา
น้ำซุปปลาแห้ง
1
ถ้วย
น้ำ
1
ถ้วย
เนย
2
ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ


1. ล้างสะโพกไก่ เลาะกระดูกและหนังออก หั่นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาด 2x2 ซม. พักให้สะเด็ดน้ำ
2. เคล้าเนื้อไก่กับเกลือ พริกไทยพอทั่ว หมักไว้ประมาณ 15 นาที
3. ล้างแครอท มันฝรั่ง ปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาด 2x2 ซม. ปอกเปลือกหอม-ใหญ่ ล้างน้ำ หั่นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาด 2x2 ซม.
4. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ตั้งไฟกลางพอร้อน ใส่เนื้อที่หมักไว้ในข้อ 2 ลงทอดพอตึงตัว ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน
5. ต้มแครอท มันฝรั่ง พอสุก ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำ
6. ผสมซีอิ๊วญี่ปุ่น น้ำซุป น้ำ ตั้งไฟเคี่ยวประมาณ 10 นาที ใส่ผงกะหรี่ ใส่หอมใหญ่ แครอทต้ม มันฝรั่งต้ม ไก่ทอด เคี่ยวสักครู่
7. ใส่เนยลงในกระทะ ตั้งไฟกลางพอเนยละลาย ใส่กระเทียม เจียวพอหอม ใส่ลงในหม้อไก่ คนให้เข้ากัน ใส่มันฝรั่งบด เคี่ยวพอน้ำมีลักษณะข้นเหนียว ปิดไฟ
8. วิธีจัดเสิร์ฟ ตักข้าวสวยใส่จาน ตกแต่งด้วยใบชิโซ ตักแกงกะหรี่วางข้างๆ


วิธีทำน้ำซุปปลาแห้ง


เนื้อปลาโอขูดแห้ง
20
กรัม
น้ำ
15
ถ้วย
ใส่น้ำลงในหม้อ ตั้งไฟกลางพอเดือด ใส่ปลาแห้ง เคี่ยวไฟอ่อนประมาณ 10 นาที ปิดไฟ กรองเอาแต่น้ำซุปใสๆ จะได้น้ำซุปประมาณ 15 ถ้วย




เกี๊ยวซ่า (Gyoza)

เครื่องปรุง
เนื้อหมูบด
500
กรัม
ต้นหอมซอย
1
ต้น
กระเทียมสับ
1
ลูก
เกลือป่น
1/4
ช้อนชา
พริกไทยป่น
1/2
ช้อนชา
น้ำตาลทราย
1/2
ถ้วย
น้ำมันพืช
3
ช้อนโต๊ะ
แป้งเกี๊ยวซ่า/เกี๊ยวแผ่น
1
ถ้วย

วิธีทำ



1
นำเนื้อหมูบดมาคลุกเคล้ากับเครื่องปรุง คือ กระเทียมสับ เกลือป่น พริกไทยป่น น้ำตาลทราย และต้นหอมซอย นวดจนเครื่องปรุงเข้ากันดี พักไว้
2
น้ำแป้งสำหรับทำเกี๊ยวซ่ามาผสมน้ำ แล้วนวด
3
จนแป้งเหนียวได้ที่ คลึงจนเป็นเส้นยาว แล้วตัดเป็นก้อนพอดีแผ่น
4
น้ำไม้นวดมาคลึงก้อนแป้งให้เป็นแผ่นบางๆ อย่าให้บางมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้ตอนห่อขาดได้
5
น้ำแผ่นแป้งที่ได้เป็นแผ่นแล้ว ตักไส้ที่ทำรอไว้แล้วพอประมาณ จับจีบพอสวยงาม ใ้ช้น้ำลูบตามจีบให้ติดกัน
6
น้ำเกี้ยวที่ห่อไส้เสร็จแล้วลงทอดในกระทะ ใส่น้ำมันพืชพอประมาณ (บางท่านที่ชอบนุ่มๆ ก็อาจพรมน้ำแล้วปิดฝาขณะทอด ไอน้ำจะทำให้เกี้ยวนุ่มขึ้น)








ข้าวหน้าหมูทอด (Katsu Don)

เครื่องปรุง
ข้าวสวยญี่ปุ่น1ถ้วย
หมูทอดญี่ปุ่น1ชิ้น
ไข่ไก่ตีให้เข้ากัน1ฟอง
ต้นหอมหั่นท่อนยาว1ต้น
หอมใหญ่หั่นเสี้ยว1/2หัว
สาหร่ายทะเลชนิดแผ่นหั่นเป็นเส้น2ช้อนโต๊ะ
พริกป่นญี่ปุ่น1/4ช้อนชา
น้ำจิ้มเทมปุระ3ช้อนโต๊ะ
น้ำซุปเทมปุระ1/4ถ้วย
น้ำมันพืช1ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. หั่นหมูทอดเป็นชิ้นพอคำ วางบนข้าวสวยที่ใส่ชามไว้
2. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ตั้งไฟกลางพอร้อน ใส่น้ำจิ้มเทมปุระ น้ำซุป หอมใหญ่ ผัดพอทั่ว
3. ใส่ไข่ คนพอไข่สุก ใส่ต้นหอม ตักราดบนหมูทอด โรยหน้าด้วยพริกป่น สาหร่าย รับประทานกับซอสหมูทอด






Menchi Katsu




วันนี้ขอแนะนำ Menchi Katsu เป็นเมนูที่ใช้เนื้อหรือหมูสับละเอียดเป็นส่วนผสมหลัก ทอดในน้ำมันร้อนๆ อาจจะออกแนวตะวันตกนิดๆแต่ประยุกต์จนเป็นอาหารญี่ปุ่นแสนโอชะในทุกวันนี้

วิธีทำ

1
นำส่วนผสมต่อไปนี้ใส่ลงในชาม มีหัวหอมใหญ่สับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ, ไข่ไก่ 1 ฟอง, ขนมปังกรอบป่นละเอียด 60 g.,เกลือ 1 ช้อนชา, นมหรือไวน์แดง 1 ช้อนโต๊ะ และเหยาะผงกระเทียม,พริกไทยป่นตามชอบ จากนั้นคลุกเคล้าด้วยมือให้เข้ากัน
2
นำเนื้อหรือเนื้อหมูสับละเอียดใส่ลงในชามที่ผสมเครื่องไว้แล้วประมาณ 5 ขีด คลุกเคล้านวดด้วยมือจนส่วนผสมเข้ากันดี
3
เมื่อนวดจนเหนียวจับตัวกันดีแล้ว ให้กวนเป็นก้อนแล้วปาในชามอีกประมาณ 10 ครั้ง ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้เนื้อเหนียวนุ่มยิ่งขึ้น
4
จากนั้นนำเนื้อที่ได้มาปั้นเป็นก้อนวงรี จะได้ประมาณ 5-6 ก้อน
5
นำก้อนเนื้อที่ปั้นไว้ไปคลุกแป้ง, ชุบไข่ และโรยด้วยขนมปังป่นกรอบอีกที ขณะนี้เนื้อก็พร้อมที่จะรอทอดแล้วค่ะ
 6
 เทน้ำมันลงในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อนจัดนิดนึง แล้วเริ่มใส่ก้อนเนื้อที่เตรียมไว้ ทอดทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วค่อยกลับนะคะ เนื้อจะได้ไม่เละติดกระทะ แล้วผลิกไปมาจนเหลืองกรอบได้ที่ เท่านี้ก็จะได้เมนูเด็ดสำหรับมื้อนี้แล้วค่ะ...เอื๊อกๆๆ